อัปเดตล่าสุด 14 กรกฎาคม 2565
แน่นอนว่า Made Your Day ไม่ใช่แค่ชื่ออาณาจักร แต่มันคือจิตวิญญาณของผู้ก่อตั้งที่มีมาอย่างยาวนาน! บรรพบุรุษของเราเชื่อเสมอว่าอาณาจักรของเราจะมีความสุขและเติบใหญ่ได้ หากเราทุกคนต่าง Made Your Day ซึ่งกันและกัน!
ความสุขไม่ได้เกิดจากการแบ่งปันกันเองเท่านั้น มันเกิดจากการที่แบ่งไปสู่คนอื่นด้วย แบ่งไปสู่คนที่ได้มาอ่านบทความเราได้มีความสุข ได้รู้จักกับร้านอร่อยๆ ได้เทคนิคในการใช้ชีวิต แบ่งไปสู่ร้านค้าที่โทรมาบอกรักเรายาวๆ แบบโคตรจะแฮปปี้เพราะคนเต็มร้านไม่หวายยย และที่สำคัญที่สุดคือแบ่งปันไปสู่พนักงานของเราเองที่มีความสุข และภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรนี้
การที่อาณาจักรนี้จะไปรอดได้ ไม่มีทางเกิดขึ้นเพียงลำพังจากคนไม่กี่คน แต่ต้องมาจากการร่วมมือของทุกคนในอาณาจักร ดั่งสำนวนที่ว่า “รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย” การร่วมมือที่ว่านี้ไม่ใช่แค่การที่เราทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด แต่ยังคอยช่วยดูแลซึ่งกันและกันด้วย บรรพบุรุษของเราได้ทิ้งหลักค่านิยม 6 ประการไว้ ซึ่งเป็นหลักแกนกลางสำคัญ ที่จะทำให้อาณาจักรแห่งนี้เติบโตและพัฒนาไปได้อย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงทำให้ทุกคนมีรอยยิ้มตลอดไป
แล้วคุณล่ะ พร้อมเติบโตไปกับ Made Your Day แล้วรึยัง
ประการที่ 1
เริ่มต้นด้วยความสงสัย และพิชิตด้วยความเข้าใจ
Start with Why, Pursue with Understanding
ประการที่ 2
เพราะอาณาจักรนี้มีทุกคนเป็นเจ้าของ
Own it Genuinely
ประการที่ 3
สื่อสารกันด้วยใจ สื่อสารกันให้บ่อย 💬📨
Communicate Often and by Heart
ประการที่ 4
กล้าที่จะล้ม พร้อมที่จะลุก 🏁🏆
Dare to Fail, Ready to Rise
ประการที่ 5
แบ่งปันความรัก ขจัดอคติ 💖💘
Spread the Love, Stop the Hate
ประการที่ 6
ทำงานให้สุด! ปาร์ตี้ไม่สะดุด! แล้วหยุดที่เตียงนอน! 💻🥳😴
Work Smarter, Party Harder, Sleep Ever Tighter
เพราะในวันๆ นึง เราอาจจะได้รับมอบหมายงานบางอย่างมา ซึ่งมันสำคัญมากที่เราต้องเข้าใจว่างานต่าง ๆ แต่ละงาน ที่ได้รับมอบหมายมานั้น โจทย์จริง ๆ คืออะไร ลูกค้าเป็นใคร ส่งผลอะไร และที่สำคัญที่สุดคือ ทำไปทำไมกันนะ? เพราะเมื่อเรารู้แล้ว มันจะทำให้เราได้คิดหาทางไปสู่ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ที่สุดนั่นเอง ซึ่งเราเรียกเทคนิคนี้สั้น ๆ ว่า “Why & How”
แล้วถ้าหากไม่รู้ล่ะ? หากไม่รู้ก็ขอแค่เพียงเรากล้าถามมันออกมา การไม่รู้นั้นไม่ผิด แต่การไม่รู้ไม่เข้าใจ แล้วยังไม่กล้าถามอีกนั่นแหละที่ผิดและไม่เป็นผลดีต่อใคร เพราะหากงานที่ทุ่มแรงทุ่มใจทำลงไปแต่สุดท้ายมันใช้ไม่ได้ เท่ากับเราจะต้องกลับมาแก้ไขและเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น ดังนั้นหากยามใดที่ท่านทั้งหลายได้งานมา ขอให้ตั้งคำถามและทำความเข้าใจกับตัวงานให้ถ่องแท้เสียก่อน จึงค่อยเริ่มทำงานต่อไป
สิ่งที่บรรพบุรุษของเราย้ำเตือนเสมอ นั่นก็คือ เมืองนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว ทุกคนคือเจ้าของร่วมกัน จิตวิญญาณความเป็นเจ้าของนั้นจะเกิดขึ้นได้ หากทุกคนมีความรักมากพอ ทั้งรักในตัวงานที่ทำและรักผู้คนที่อยู่ในอาณาจักร … แต่! อย่าเพิ่งคิดว่ามันฟังดูเลี่ยนนะ ถ้าเรายังไม่เคยลองทำมัน แน่นอนว่าความรักคงไม่ได้เกิดขึ้นแบบปุบปับ ที่นี่เน้นรักแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ยาวไป ยาวไป แบบที่รู้ตัวอีกทีก็หลงรักเราเข้าซะแล้ว
เมื่อเรามีจิตวิญญาณความเป็นเจ้าของแล้ว เราก็จะรู้สึกอินไปกับมัน อะไรที่ดีก็จะทำต่อไป อะไรที่ไม่ดี ก็จะไม่ทำเด็ดขาด และอะไรที่มันยังดีไม่สุด เราก็ไม่ยอมปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆ หรือถ้าหากเราคิดว่ามันมีทางที่ดีกว่านี้ เราก็จะรีบเสนอไอเดียนั้นทันที ทั้งกับทุกคนในองค์กร กับลูกค้า และกับคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย แม้จะประสบปัญหาหรืออุปสรรค เราก็จะไม่หันหนี เพราะเรารู้ว่าทุกปัญหามีทางออก แถมเรายังมีเพื่อนในทีมคอยช่วยเหลือ คอยให้กำลังใจ คอยสู้ไปกับเราด้วย เพราะฉะนั้น ไม่ว่าปัญหาจะเป็นอะไร เราก็จะผ่านมันไปได้!
อยากให้ลองถามตัวเองเบาๆ ดู ว่าทั้งบรรยากาศทำงานดีๆ แบบนี้ เจอแต่คนน่ารักๆ แบบนี้ ถ้าจะไม่รักเราอะ ไหวจริงเหรอ? 😛
ถ้าถามพวกเราว่าอะไรสำคัญที่สุดในการทำงานเเล้วละก็ ลองนึกภาพว่าเราต้องสร้างอะไรสักอย่างขึ้นมาเองโดยไม่มีคนคอยช่วยชี้แนะอะไรเลยดูสิ แล้วลองคิดดูว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนหากไม่ถามอะไรใดๆ เลย? จากที่ควรใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาที สุดท้ายอาจจะกลายเป็นชั่วโมงได้ในพริบตา เฉกเช่นเดียวกับในอาณาจักรแห่งนี้ พวกเราต้องการความฉับไวและความเข้าใจกันอย่างถ่องแท้ เพราะการสื่อสารที่ถูกจะทำให้พวกเราเข้าใจกัน และเกิดการแลกเปลี่ยนความคิดกันขึ้น จนทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงอาณาจักรนี้ได้
ด้วยเหตุนี้เองบรรพบุรุษของเราจึงทิ้งหลักแห่งการสื่อสารไว้สั้นๆ 2 ข้อ นั่นก็คือ No Layer and No Ego ถ้าแปลสั้นๆ ก็คือ ที่นี่เราไม่มีใครใหญ่ ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงในการเสนอเเละแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเท่ากันหมด เราเปิดเวทีให้คนตัวเล็กได้ Think Big และเเน่นอนว่า เมื่อมีคนพูดก็ต้องมีผู้รับฟังที่ดี เราอยากให้ทุกคนรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น เพราะทุกคนต่างมีมุมมองในแบบของตัวเอง ให้ลองคิดย้อนกลับดูก่อนว่าอะไรทำให้คนๆ นึงคิดแบบนี้ เเล้วพวกเราจะเข้าใจเค้าเเละสามารถต่อยอดความคิดใหม่ๆ ออกมาได้อย่างไม่รู้จบ
ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกๆ วัน และนับวันยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ การเปลี่ยนแปลงนั้นน่ากลัวเพราะมันจะทำให้เราได้เจอกับอะไรที่เราไม่รู้จัก แต่การไม่เปลี่ยนแปลงนั้นน่ากลัวยิ่งกว่า ชาร์ลส์ ดาร์วิน เคยกล่าวไว้ว่า “ผู้ที่อยู่รอดคือผู้ที่ปรับตัวได้ดีที่สุด” เช่นนั้นเอง พวกเราจึงสนับสนุนให้ทุกคนได้กล้าที่จะลองอะไรใหม่ และ “หาทำ” อยู่ตลอดเวลา ยิ่งหาทำเท่าไหร่ เรายิ่งชอบ!! ถึงจะล้มเหลวก็ไม่เป็นไร!! แต่อย่าล้มเหลวในเรื่องเดิมๆ บ่อยเกินไป โปรดเรียนรู้จากมันด้วย ความล้มเหลวมันไม่ใช่แค่ความล้มเหลว แต่มันคืออีกหนึ่งขั้นบันไดสู่ความสำเร็จ เฉกเช่นนักรบที่มีประสบการณ์ย่อมมีบาดแผลจากการฝึกและล้มเหลวมานับพันครั้ง แต่มันจะทำให้เค้าเป็นวีรบุรุษได้ในที่สุด
การจะเติบโตในอาณาจักรแห่งนี้ เราไม่เคยห้าม ไม่เคยหยุดรับฟังไอเดียใหม่ๆ จากทุกคน เราอยากให้ทุกคนกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ กล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหา กล้าที่จะลุกออกมาจาก Comfort Zone และเราอยากให้ทุกคนเป็นคนช่างสังเกต สังเกตการเปลี่ยนแปลงของอาณาจักรอื่น (คู่แข่ง) สังเกตการเปลี่ยนแปลงของโลก และด้วยความกล้านี้เอง จะทำให้อาณาจักร Made Your Day สามารถก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ได้
ประการที่ 5 ห้ามดื่มสุราเมรัยและเสพของมึนเมาทุกชนิด ถุ้ย! นั่นมันศีลข้อ 5 ผ่ามมม …
… ล้อเล่น!
คือหลักข้อนี้จะช่วยยึดโยงความสัมพันธ์ของทุกคนเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเราสามารถสรุปจบได้ในประโยคเดียว นั่นก็คือ “Spread the Love, Stop the Hate”
สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง จริงๆ แล้วมันง่ายมาก เพียงแค่คิดดีและทำดี พวกเราอยากให้ทุกคนจำไว้เสมอว่าสิ่งที่มีอิทธิพลมากๆ คือความคิดของคนเรา ความคิดสามารถนำพาคนขึ้นสวรรค์หรือตกนรกทั้งเป็นได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไปได้ล้วนเริ่มมาจากความคิด ดังนั้นเราจึงอยากให้ทุกคนพยายามคิดบวกอยู่เสมอ
โดยคิดบวกในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเห็นใครเเล้วจะเข้าไปต่อย แฮ่! เเต่มันคือการที่เราพยายามหาแง่มุมดีๆ ในแต่ละสิ่ง แม้ว่าบางครั้งมันอาจจะเป็นสิ่งไม่ดีหรือความผิดพลาดในสายตาคนอื่นก็ตาม ซึ่งถ้าทุกคนต่างคิดบวกต่อกันและกัน ต่อลูกค้า ต่อคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพวกเรา ผลลัพธ์ที่ตามมาก็จะทำให้อาณาจักรนี้มีความน่าอยู่ ทุกคนต่างเกรงใจและให้เกียรติกัน ไร้ซึ่งความระแวงหน้าระวังหลัง ว่าจะมีคนมาคอยตัดสินอะไรเรารึเปล่า หมดสิ้นเรื่องปัญหาการนินทาลับหลัง กลายเป็นโลกที่ทุกคนกล้าที่จะยอมรับเมื่อทำผิด และพร้อมที่จะก้าวข้ามมัน เพื่อพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
เมื่อเราคิดบวกแล้ว คิดดีแล้ว ต่อมาก็คือการกระทำ นั่นหมายถึงเราจะเริ่มจากการเป็นผู้ให้ ทั้งให้ความรู้ ให้คำปรึกษา ให้ความช่วยเหลือ และให้ความรัก อาณาจักรของเราจะน่าอยู่มาก ถ้าหากทุกคนคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะว่าไม่มีใครทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวได้ ดั่งสำนวนที่ว่า รวมกันเราอยู่แยกหมู่เราตาย!
และประการสุดท้าย พวกเราไม่ได้อยากให้ทุกคนทำงานหนัก หามรุ่งหามค่ำจนร่างกายทรุดโทรม เพราะคุณมีเพียงคนเดียวบนโลกใบนี้! ความปรารถนาของเรา คืออยากให้ทุกคนทำงานไปด้วยความสนุก และขับเคลื่อนงานไปด้วยมันสมองอันชาญฉลาด! และอย่างที่บรรพบุรุษของเรา เคยบอกไปในประการแรกๆ แล้ว นั่นคือหากไม่รู้อะไร ก็ให้ลองถาม ลองคุยกับรุ่นพี่หรือเพื่อนที่เก่งๆ ในสายงานอื่น เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เผื่อจะมีมุมมองใหม่ๆ โผล่เข้ามานั่นเอง
และเทคนิคพิเศษแบบ(ไม่)ลับ ที่จะช่วยให้การทำงานในอาณาจักรแห่งนี้ มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยที่เราไม่เหนื่อยจนเกินไป นั่นก็คือ “กฎ 80/20” ! กฎกติกาที่ว่าก็คือการที่เราจะใช้แรงเพียง 20% ในการทำให้ตัวงานสำเร็จเสร็จไปถึง 80% ซึ่งการที่เราจะใช้แรงเพียงแค่ 20% ได้ ก็เริ่มมาจากการที่เราได้เรียงลำดับแล้ว ว่างานแต่ละอย่างมีความสำคัญมากน้อยเพียงไหน หากมีความสำคัญมาก ก็คุ้มค่าที่จะใช้แรงในการทำ ส่วนงานที่ไม่สำคัญมาก เราก็ไม่จำเป็นต้องทุ่มเทให้เต็มแบบ 100% ตลอดเวลานั่นเอง
พวกเราเชื่อว่ากฎ 80/20 จะทำให้ทุกคนทำงานออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่แน่นอนว่าเมื่อทำงานหนักแล้ว เราต่างก็ต้องรักษาสุขภาพทั้งทางกายและใจ เพราะฉะนั้นอย่าลืมคติประจำใจว่า “เราจะทำงานให้สุด! ปาร์ตี้ไม่สะดุด! แล้วหยุดที่เตียงนอน!”